ชีวิตสมัยเป็นเด็กที่อังกฤษ
หลังจากสามีเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2419 มิสซิส เมรี เจน ดิบบ์ ที่ขณะนั้นอายุได้ 34 ปีได้รับมรดกจากสามีเป็นมูลค่า 1,500 ปอนด์ ซึ่งสมัยวิคตอเรียนับว่าพอจัดการกับชีวิตได้ดีตามสมควร ทั้งนี้เพราะเงินไม่กี่ร้อยปอนด์ต่อปีของครอบครัวชนชั้นกลางในลอนดอนปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 พอเพียงสำหรับการดำเนินชีวิตไปได้อย่างไม่ขัดสน สำหรับบ้านของเธอในช่วงนั้นอยู่เลขที่ 26 ถนนเกย์ตัน (Gayton) หมู่บ้านแฮมพ์สเต็ด (Hampstead) ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงลอนดอน
เมื่อ วิลเลียม เรจินัลด์ ดิบบ์ อายุได้สี่ขวบในปี พ.ศ. 2424 ซึ่งเป็นช่วงต้นการครองราชย์ของในหลวงรัชกาลที่ห้าของสยาม บ้านในลอนดอนหลังนี้มีสมาชิกอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวใหญ่ นอกจากมารดาของเขาแล้วยังมีพี่ชายคนโต แอชตัน วิลเบอร์ฟอร์ซ (Ashton Wilberforce) ที่ขณะนั้นอายุ 19 ปี พี่ชายคนรอง เฟรเดอริค โทมัส (Frederick Thomas) อายุ 17 ปี ส่วนพี่ชายคนถัดจากเขาที่ชื่อ ฮิวจ์ แมคนีล (Huge M’Neile) ขณะนั้นถูกส่งไปเข้าโรงเรียนประจำชื่อ เทรนต์ คอลเลจ (Trent College) เมืองลองอีตัน (Long Eaton) มณฑลดาร์บิเชอร์(Derbyshire) (หมายเหตุ โรงเรียนนี้ต่อมาประมาณสี่สิบปีเป็นโรงเรียนที่ทั้ง ม.ร.ว เสนีย์ และ ม.ร.ว คึกฤทธิ์ ปราโมช เข้าศึกษาเป็นนักเรียนประจำ)
นอกจากนั้นในบ้านยังมีลูกของลุง ซึ่งขณะนั้นเป็นบาทหลวงที่อินเดียมาอาศัยอยู่ด้วย (ร้อยกว่าปีต่อมาลูกพี่ลูกน้องคนนี้ของ วิลเลียม มีทายาทรุ่นหลานชื่อ วิลเลียม เคมม์ (William Kemm) ได้เป็นผู้เขียนหนังสือชีวประวัติของ จอห์น โทมัส (John Thomas) เทียดของเขาและของผู้เขียน) ขณะนั้นในบ้านยังมีน้าชาย ซึ่งเป็นนายตำรวจที่อินเดียมาพักอยู่ด้วยชั่วคราว โดยในบ้านนี้มีคนรับใช้อาศัยอยู่ด้วยอีกคน ลูกๆ ของ เมรี เจน เหล่านี้ทั้งหมดยกเว้น วิลเลียม เกิดและโตในอินเดีย ก่อนถูกส่งมาเข้าเรียนในโรงเรียนประจำของอังกฤษ
อีกสี่ห้าปีต่อมาเมื่อ วิลเลียม อายุราวสิบขวบเขาถูกส่งไปเข้าโรงเรียนประจำที่ชื่อ ชอร์น คอลเลจ (Schorne College) ในหมู่บ้านนอร์ท มาร์สตัน (North Marston) มณฑลบังกิงแฮมเชอร์ โรงเรียนนี้ตั้งอยู่บนเนินติดกับโบสถ์เซนต์เมรีที่มีประวัติย้อนไปถึงคริสต์ศตวรรศที่ 12 ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ชนชั้นกลางระดับบนของอังกฤษ รวมถึงชาวต่างชาติ มักส่งบุตรหลานเข้าเรียน
เมื่อลูกชายคนเล็กเข้าโรงเรียนประจำไปแล้ว มิสซีสเมรี เจน ได้ย้ายบ้านอีกครั้งไปอยู่บ้านเลขที่ 36 ถนนคอนนอช์ท (Connaught road) วิลเลสเด็น (Willesden) เขตมิดเดิลเซ็กส์ โดยอยู่ลำพังกับลูกชายคนโต แอชตัน วิลเบอร์ฟอร์ซ และคนรับใช้ ลูกชายคนนี้ขณะนั้นเข้าศึกษาต่อด้านการศาสนาที่คิงส์ คอลเลจ และต่อมาที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด สำหรับลูกชายคนรองของนางที่ชื่อ เฟรเดอริค โทมัส ได้เดินทางไปแคนาดาตั้งแต่ พ.ศ. 2428 เพื่อศึกษาต่อด้านการศาสนาเช่นเดียวกับพี่ชายที่วิทยาลัยของบิชอป เล็นนอกซ์วิล์ล (Lennoxville) เมืองควิเบก แคนาดา ประเทศในอาณานิคมของอังกฤษ
เมื่อ วิลเลียม เรจินัลด์ จบชั้นมัธยมต้นจากโรงเรียนชอร์นคอลเลจ และเข้าพิธียืนยันการเป็นคริสต์ศาสนิกชนแล้วในปี พ.ศ. 2434 มารดาจึงส่งเขาไปหาพี่ชาย เฟรเดอริค โทมัส ดิบบ์ ที่แคนาดาซึ่งขณะนั้นจบการศึกษาแล้วและเป็นบาดหลวงอยู่ที่เมืองเออร์เนสต์ทาวน์ (Ernesttown) ออนตาริโอ โดย วิลเลียม ออกเดินทางจากท่าเรือเมืองลิเวอร์พูลเมื่อวันที่ 2 กรกฏาคม พ.ศ. 2435 ในชั้น ‘ซาลูน’ หรือชั้นหนึ่งของเรือ ‘เอส เอส เลค ซูพีเรีย (SS Lake Superior)’ ถึงท่าเรือเมืองมอนทรีออลของแคนาดาในวันที่ 11 กรกฏาคม พ.ศ. 2435[i]
[i] กิตติชัย วัฒนานิกร, นายห้างป่าไม้สี่แผ่นดิน (สันตภาพแพ็คพริ้นท์, 2561)